บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขียนประวัติศาสตร์! ทะลุ 8 ทีมสุดท้ายศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก หลังบุกเชือด ยะโฮร์ 1-0

ทัพ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการบุกมาเอาชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม 1-0 ในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกที่ 2 ณ สนามสุลตาน อิบราฮิม สเตเดียม ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันอังคารที่ 11 มีนาคม 2568 ส่งผลให้ตัวแทนจากเมืองไทยผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปเล่นรอบไฟนอล สเตจ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียต่อไป

เกมรุกดุเดือด แต่ VAR เล่นบทสำคัญ

เริ่มเกมได้เพียง 2 นาที เจ้าบ้าน ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ อารีฟ ไอมาน ไหลบอลให้ เชน ลอว์รี่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเต็มแรง นีล เอเธอร์ริดจ์ นายทวารของบุรีรัมย์พยายามปัดบอล แต่บอลเด้งมาเข้าทาง แบร์กซอน ที่ตามซ้ำเข้าไปได้อย่างง่ายดาย แต่ VAR ตรวจสอบและพบว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้ประตูถูกยกเลิกไป

ถัดมาเพียง 5 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เริ่มตอบโต้บ้าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวเตะดาวรุ่งของทีมเปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาในเขตโทษ กิลเยร์เม บิสโซลี รับบอลก่อนปั่นยิงทันที อันโดนี่ ซูเบียออร์เร่ ผู้รักษาประตูเสือใต้ ต้องออกแรงปัดบอลออกหลังไปได้อย่างยากเย็น

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+3 ทัพปราสาทสายฟ้าได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย ปีเตอร์ ซูลจ์ เปิดบอลเร็วโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ ดิออน คูลส์ พยายามก้มหลบ ส่งผลให้บอลลอยไปโดน อันโดนี่ ซูเบียออร์เร่ ปัดโดนปลายมือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตามมาโหม่งบอลแต่ลอยข้ามคานออกไปเพียงเล็กน้อย จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0

“เจ้าหนู” ศุภณัฏฐ์ ซัดชัย! บุรีรัมย์ประทับตราตั๋วสู่รอบ 8 ทีม

เริ่มครึ่งหลังได้ 13 นาที บุรีรัมย์มาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ โกรัน เคาซิช พยายามลากบอลเข้าหน้ากรอบเขตโทษ แต่ถูก เชน ลอว์รี่ สกัดบอลออกมา แต่บอลกลับมาเข้าทาง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ไม่รอช้ายิงด้วยเท้าซ้ายปั่นโค้งอย่างสวยงาม บอลพุ่งหนีมือผู้รักษาประตูเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม ส่งผลให้บุรีรัมย์ออกนำ 1-0

หลังเสียประตู ยะโฮร์ พยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อหวังตีเสมอ นาทีที่ 70 พวกเขาได้เตะมุมทางขวา อารีฟ ไอมาน เปิดบอลโค้งเข้ามา แต่แนวรับของปราสาทสายฟ้าร่วมกันเคลียร์บอลออกมาได้อย่างเหนียวแน่น

5 นาทีถัดมา เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกกลางสนาม เฮเบอร์ตี เฟอร์นานเดส รับหน้าที่ยิงฟรีคิกหลอกไปที่เสาซ้าย แต่ นีล เอเธอร์ริดจ์ ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ของบุรีรัมย์ยังมาถึงบอลได้ทัน อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินให้เตะใหม่เนื่องจากยังไม่ได้เป่าให้เริ่มเล่น คราวนี้เป็น โจนาทาน วิเอร่า รามอส เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบ 6 หลา แต่ โก มยอง ซอก กองหลังเกาหลีใต้ของบุรีรัมย์โหม่งสกัดบอลออกหลังไปได้อย่างเฉียบขาด

ในนาทีที่ 85 ยะโฮร์ได้ฟรีคิกในระยะอันตรายอีกครั้ง เฮเบอร์ตี เฟอร์นานเดส รับหน้าที่ยิง แต่บอลไปชนกำแพงและเด้งออกมาเข้าทาง อารีฟ ไอมาน ที่เปิดบอลเข้าไปในกรอบอีกครั้ง เอ็ดดี้ อิสราฟิลอฟ โหม่งบอลแต่ลอยออกหลังไป

เสือใต้พยายามบุกสุดตัว แต่ VAR ยังขัดขวางจนจบ

ช่วงท้ายเกมในนาทีทดเวลาบาดเจ็บ 90+7 เจ้าบ้านได้เฮเมื่อ อารีฟ ไอมาน เปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ จอร์เก้ โอเบรกอน เอี้ยวตัวยิงบอลเข้าประตูไปได้อย่างสวยงาม ทว่า VAR ตรวจสอบและพบว่า จอร์เก้ โอเบรกอน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนรับบอล ทำให้ประตูถูกยกเลิกไปอีกครั้ง

จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม 1-0 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท ได้สำเร็จ และจะเดินทางไปเล่นในรอบไฟนอล สเตจ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียต่อไป

ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของตัวแทนจากไทย

ชัยชนะในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของรายการระดับเอเชียได้ ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าประทับใจของตัวแทนจากประเทศไทย โดยเฉพาะการที่พวกเขาสามารถเก็บคลีนชีตในเกมเยือนได้อย่างยอดเยี่ยม

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กลายเป็นฮีโร่ของทีมด้วยการทำประตูชัยอันสวยงาม ส่วนแนวรับนำโดย นีล เอเธอร์ริดจ์, เคอร์ติส กู๊ด, เคนเน็ต ดูกอล และ โก มยอง ซอก ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งเกม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเดินทางไปแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท ในช่วงไฟนอล สเตจ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งแฟนบอลชาวไทยต่างรอลุ้นและให้กำลังใจทีมตัวแทนจากเมืองไทยในการสร้างผลงานประวัติศาสตร์ต่อไป