อเล็กซานเดอร์ เลวัค เอเย่นต์ของ เบน ไวท์ กองหลังตัวหลักของ อาร์เซนอล ได้ออกมาพูดถึงกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่นักเตะในความดูแลของเขาไม่มีชื่อในทีมชาติอังกฤษชุดล่าสุด ท่ามกลางข้อสงสัยว่าอาจเป็นผลจากความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างเขากับทีมสตาฟฟ์ของ “สิงโตคำราม”
เลวัคกล่าวอย่างจริงจังว่า “ผมเข้าใจดีว่าเมื่อนักเตะอยู่ในจุดสนใจ ย่อมต้องเผชิญกับทั้งคำชื่นชมและเสียงวิจารณ์ แต่นักกีฬาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก การแสดงความคิดเห็นต่อพวกเขาควรอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ ไม่ใช่เพียงการตัดสินจากมุมมองภายนอก”
ความแข็งแกร่งของเบน ไวท์ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์
ตลอดช่วงที่ผ่านมา เบน ไวท์ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจ เขาสามารถมุ่งมั่นทำผลงานให้กับอาร์เซนอลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยไม่ปล่อยให้กระแสข่าวและคำวิพากษ์วิจารณ์ส่งผลกระทบต่อฟอร์มในสนาม เลวัคเสริมว่า “ไม่มีใครรู้เบื้องหลังชีวิตของนักฟุตบอลอย่างแท้จริง หลายคนตัดสินจากสิ่งที่เห็นหรือข่าวลือที่ได้ยินมาเท่านั้น แต่ความจริงแล้วแต่ละคนมีเรื่องราวและเหตุผลของตัวเอง”
เขายังกล่าวถึงความเป็นมืออาชีพของ เบน ไวท์ ที่สามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดี “เบน เลือกที่จะโฟกัสกับงานของเขา เขาไม่ปล่อยให้เสียงจากภายนอกมาส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในสนาม นี่คือคุณสมบัติของนักเตะที่มีจิตใจแข็งแกร่ง”
ผลงานในสนามที่ยังคงยอดเยี่ยม
แม้จะไม่มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ แต่ เบน ไวท์ ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานโดดเด่นกับอาร์เซนอล ฤดูกาลนี้เขาลงสนามไปแล้ว 47 นัด และทำได้ 4 ประตู มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก
เลวัคย้ำว่า คำวิจารณ์ที่รุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อนักเตะมากกว่าที่หลายคนคิด “บางครั้งแฟนบอลหรือสื่ออาจมองข้ามว่า นักกีฬาก็เป็นมนุษย์เช่นกัน พวกเขามีช่วงเวลาที่ยากลำบาก และไม่ใช่ทุกอย่างจะถูกตัดสินแค่จากสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม”
โอกาสกลับสู่ทีมชาติในอนาคต
แม้ว่าการพลาดติดทีมชาติอังกฤษครั้งนี้อาจเป็นผลจากปัจจัยนอกสนาม แต่เลวัคยังเชื่อว่า เบน ไวท์ ยังมีโอกาสกลับไปติดทีมชาติได้อีกในอนาคต หากเขายังคงรักษามาตรฐานการเล่นที่ดีเอาไว้
“สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าเขายังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกับอาร์เซนอล โอกาสกลับไปติดทีมชาติก็ยังคงเปิดกว้างเสมอ”
เรื่องราวของ เบน ไวท์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้แฟนบอลเห็นว่า การสนับสนุนนักเตะมีความสำคัญมากกว่าการวิจารณ์อย่างรุนแรง เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ต้องรับมือกับทั้งแรงกดดันในสนามและปัจจัยต่างๆ นอกสนามเช่นกัน